![](https://honeywitchs.com/wp-content/uploads/2024/05/Enterprise-Resource-Planning.png)
ระบบ Enterprise Resource Planning หรือเรียกว่า ERP คือซอฟท์แวร์สำหรับการวางแผนการจัดการ โดยจะมีการรวมข้อมูลทุกอย่างบันทึกไว้ใน Database หลัก ทำให้ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายอื่นๆ ที่ต้องการใช้ข้อมูลสามารถดึงข้อมูลที่ต้องการออกมาได้ทันที และทำให้องค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบ ERP ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในส่วนใด?
ในองค์กรส่วนมากนั้นประกอบไปด้วยหลากหลายหน่วยงาน เช่น ฝ่ายบริหารจัดการบุคคล (HR) ฝ่ายบัญชี (Accounting) ฝ่ายบริหารคลังสินค้า (Inventory Management) และฝ่ายอื่นๆ อีกมากมาย แต่ปัญหาที่พบเจอคืออะไร?
ในแต่ละหน่วยงานนั้นมีการใช้โปรแกรมหรือระบบบริหารที่แตกต่างกัน เช่น
- ฝ่ายบัญชีใช้โปรแกรม A
- ฝ่ายบริหารจัดการบุคคลใช้โปรแกรม B
- ฝ่ายบริหารคลังสินค้าใช้โปรแกรม C
การใช้โปรแกรมที่แตกต่างกันในแต่ละหน่วยงานนั้นย่อมส่งผลเสียในเชิงของการบริหารงาน การดูภาพรวมการทำงาน และอีกหนึ่งผลเสียที่เห็นได้ชัดเจนคือ ขาดความเชื่อมโยงของข้อมูลภายในองค์กร แก้ไขปัญหาด้วยระบบ Enterprise Resource Planning
ระบบ ERP จึงเป็นระบบที่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวและทำให้ทุกหน่วยงานสามารถทำงานร่วมกันผ่านระบบ ERP ระบบเดียว
ระบบ ERP ประกอบไปด้วย
- ระบบการจัดการการเงิน – สำหรับเชื่อมต่อฐานข้อมูลเข้ากับระบบอื่นๆ และรับข้อมูลการสั่งซื้อ จัดซื้อจัดจ้าง ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายขาย (Sales) ฝ่ายบริหารงานทั่วไป หรือฝ่ายอื่นๆ และทำการคำนวณรวบยอด ไปจนถึงพัฒนาเป็นกราฟ และการแสดงผลอื่นๆ ให้เข้าใจง่าย
- ระบบทรัพยากรบุคคล – ช่วยในการเลือกพนักงานเข้า ประเมินผลพนักงาน กำหนดแผน Training พนักงานแต่ละส่วน ขาดลา มาสาย การกำหนด Expense Claim หรือการเบิกเงินค่าเดินทาง และค่าอื่นๆ ก็สามารถทำได้ทั้งหมด นอกจากเพื่อเพิ่มศักยภาพพนักงานให้สูงยิ่งขึ้น ยังสามารถใช้กำหนดงบประมาณโดยรวมของทรัพยากรบุคคล เพื่อง่ายต่อการจัดการงบประมาณในอนาคตอีกด้วย
- ระบบจัดซื้อจัดจ้าง – ทำให้สามารถทำใบแจ้งหนี้ ใบเสนอราคา ไปจนถึงติดตามลูกค้าและบันทึกข้อมูลวัตถุดิบ และสินค้าได้ง่ายขึ้น และมีการส่งข้อมูลไปให้ระบบการเงินโดยอัตโนมัติ ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน
- ระบบการจัดการข้อมูล – ที่คอยรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ มาสรุปและนำเสนอในรูปแบบเข้าใจง่าย ให้ทุกฝ่ายสามารถดูรายละเอียดได้ ไปจนถึงวิเคราะห์ข้อมูลยิบย่อยในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นพวกข้อมูลระบบการจัดการวัตถุดิบ ข้อมูลสต็อก ข้อมูลค่าเสื่อม และอื่นๆ อีกมากมาย โดยระบบ ERP นั้นสามารถสร้างรีพอร์ตผลลัพธ์ออกมาให้ดูภาพรวมแบ่งเป็นกราฟได้โดยง่ายอีกด้วย
- ระบบสำหรับผู้บริหาร – นอกจากจะควบคุมข้อมูลของแต่ละฝ่ายได้แล้ว ทางฝั่งผู้บริหารยังสามารถดึงข้อมูลจากส่วนอื่นๆ เพื่อมาตรวจสอบความถูกต้องและทำเป็นกราฟแสดงผลข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพให้เห็นภาพรวมการทำงานของธุรกิจ รวมถึงจัดงบประมาณและจัดสรรค่าใช้จ่ายได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวางกลยุทธ์ในปีต่อไปได้อีกด้วย
- ระบบอื่นๆ – ระบบที่สามารถพัฒนาหรือสร้างได้ตามความต้องการของธุรกิจ
ตัวอย่างด้านบนเป็นเพียงส่วนน้อยของระบบ ERP แน่นอนว่ายังส่วนประกอบของระบบ ERP อีกมากที่ไม่ได้กล่าวถึง เช่น ระบบบริหารคลังสินค้า ฯลฯ เนื่องจาก ERP ของทางเรา 1stCraft นั้นจะสามารถ Customize ได้ตามความต้องการของบริษัท เพื่อความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อสิ่งที่ตัวผู้ประกอบการต้องการมากที่สุด
สำหรับท่านใดที่สนใจ แต่ยังไม่แน่ใจว่ามีระบบที่ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณหรือไม่ ปรึกษาเราฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
ทำความรู้จักกับระบบ ERP ทั้ง 2 ประเภท – ระบบ ERP หลักๆ แล้วจะมีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบดังนี้
รูปแบบที่ 1: ERP ในรูปแบบระบบ Cloud
บางท่านอาจจะยังสงสัยว่า ERP ระบบ Cloud คืออะไร? อธิบายได้สั้นๆ ง่ายๆ คือ ระบบ ERP จะถูกติดตั้งไว้บนเซิฟเวอร์ (Cloud Server) เพื่อให้ท่านเข้าใช้งานง่ายๆ ได้ผ่านมือถือหรืออินเทอร์เน็ต 4G ก็เข้าได้ โดยจุดเด่นของระบบ ERP ประเภทนี้ คือ การใช้งานที่ค่อนข้างสะดวก Access ได้ทุกที่ผ่านแอปพลิเคชั่น
รูปแบบที่ 2: ERP ในรูปแบบ On-Premise
กล่าวคือแทนที่จะเป็นระบบที่ถูกติดตั้งไว้บนเซิฟเวอร์ ระบบ ERP นี้จะถูกติดตั้งไว้บน Hardware หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ที่องค์กรใช้งานอยู่แล้ว เพื่อเสริมความปลอดภัยขึ้นไปอีกหนึ่งระดับนั่นเอง แต่แน่นอนว่าย่อมแลกมาด้วยข้อเสียบางประการเช่นเดียวกัน
ที่มา: 1stcraft