![](https://honeywitchs.com/wp-content/uploads/2024/06/พุทราจีน.png)
พุทราจีน หนึ่งในยาสมุนไพรและอาหารที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่สมัยโบราณของประเทศจีนมากกว่า 3,000 ปี ได้ชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ มีสรรพคุณให้ความร้อนและความอบอุ่นแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี ทั้งในการบำรุงเลือด บำรุงกำลัง ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ อีกทั้งเป็นแหล่งรวมวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายหลายชนิด ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินบีรวม แร่ธาตุที่จำเป็น เช่น แคลเซียม เหล็ก สังกะสี ฟอสฟอรัส
พุทราจีน มีลักษณะเป็นอย่างไร
พุทราจีนเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก บริเวณลำต้นมีหนาม ภายในผลมีเมล็ดเดียว ผิวเปลือกเรียบ ผลสดจะมีสีเขียวแกมเหลือง เมื่อสุกแล้วจะมีสีน้ำตาลแดงเข้ม มีรสหวานมันและฝาด สามารถรับประทานได้ทั้งผลสุกและตากแห้ง หากเป็นผลแห้ง ก่อนรับประทานควรนำมาแช่น้ำก่อนประมาณ 3-4 ชั่วโมง ให้ผิวของพุทราเริ่มตึงแล้วค่อยนำมาใช้
สรรพคุณของพุทราจีน ส่วนต่างๆ ของพุทราจีน มีสรรพคุณทางยาดังต่อไปนี้
- เนื้อพุทราจีน มีแร่ธาตุที่สำคัญอย่างโพแทสเซียม ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษาสมดุลความดันเลือดได้ดี มีฟอสฟอรัสและเหล็ก ช่วยในการไหลเวียนระบบโลหิต ป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง กล้ามเนื้ออ่อนแรง บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ และมีแคลเซียมที่ช่วยในการรักษาสมดุลความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดการอักเสบบริเวณข้อ ลดอาการบวมได้นอกจานี้ 50% ของเนื้อพุทราคือไฟเบอร์ ช่วยทำให้การขับถ่ายง่ายขึ้น ลดการเกิดท้องผูก ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญในการเกิดริดสีดวงทวาร และที่สำคัญ สารในเนื้อพุทรายังช่วยส่งเสริมการสร้างเยื่อบุในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดแผลในทางเดินอาหารจากเชื้อแบคทีเรีย
- ลดระดับคอลเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และไขมัน LDL ในเส้นเลือด ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และป้องกันการเกิดเส้นเลือดในสมองตีบได้อีกด้วย
- มีวิตามินซีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- วิตามินเอช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาบอดตอนกลางคืน (อาการมองไม่ชัดในเวลากลางคืนหรือในที่ที่มีแสงไฟสลัว) และช่วยบำรุงผิวพรรณให้ผิวสุขภาพดีและแข็งแรง
- อุดมไปด้วยวิตามินบีรวม ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นประสาทและสมอง
เมล็ดของพุทราจีน เมื่อนำมาสกัด พบว่ามีคุณสมบัติช่วยในการนอนหลับ นอกจากนี้เนื้อผลเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วสามารถช่วยลดความเครียด และช่วยเพิ่มการทำงานของสมองได้
สารพฤษเคมีที่สำคัญในพุทราจีน
ในงานวิจัยจากประเทศจีน รายงานว่าพุทราจีนมีสารต่างๆ เหล่านี้
มีฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และโพลีแซกคาไรด์ (Polysaccharide) ซึ่งเป็นสารที่มีความสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังมีกรดไตรเตอร์เพนิก (Triterpenic acids) ช่วยยับยั้งกระบวนการอักเสบ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2
จากการทดลองสกัดวิตามินซีในเนื้อพุทราจีนในห้องปฏิบัติการ พบว่ามีประสิทธิภาพในการต้านเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด เช่น โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งผิวหนัง
จากการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาเพิ่มเติมพบว่า ในเมล็ดพุทราจีนมีสารออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทและสมอง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานของกาบา (GABA) ที่เป็นสารสื่อประสาทและฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ช่วยรักษาสมดุลของระบบประสาท ลดความเครียด ทำให้ร่างกายสงบลง รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยส่งเสริมคุณภาพการนอน ทำให้หลับสนิทและหลับลึก ป้องกันการเกิดโรคลมชัก โรคอัลไซเมอร์ เพิ่มทักษะการเรียนรู้และช่วยเพิ่มความจำได้เป็นอย่างดี
ในพุทราจีนมีแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และสารไลโคปีน (Lycopene) สูงมาก ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารเดียวกันกับที่พบในมะเขือเทศและพืชผักผลไม้ที่มีสีแดง มีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ชะลอความความเสื่อมของเซลล์ ช่วยแก้อาการอ่อนเพลียในสตรีหลังคลอดบุตร บำรุงโลหิต รักษาโรคโลหิตจาง ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวกันเป็นก้อน จึงสามารถลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
เปลือกพุทรา มีสารแทนนิน (Tannins) ทำให้มีรสฝาด สามารถรักษาอาการท้องเสียได้
คนท้องกินพุทราจีนได้ไหม
ผู้ที่ตั้งครรภ์อยู่สามารถรับประทานพุทราจีนได้ปกติในประมาณที่พอเหมาะ เพราะสรรพคุณหลักของพุทราจีนนั้นช่วยบำรุงเลือดและบำรุงกำลัง
ที่สำคัญคือควรรับประทานผลไม้สดให้หลากหลาย ไม่ควรรับประทานชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
ผลไม้ที่สตรีตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ควรหลีกเลี่ยงส่วนใหญ่จะเป็นผลมี่มีปริมาณน้ำตาลสูง เช่น ทุเรียน ลำไย มะม่วงสุก เพราะเมื่อรับประทานน้ำตาลเข้าไปมากแล้ว จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และอาจมีผลต่อน้ำหนักตัวอีกด้วย และผลไม้ในกลุ่มดังกล่าวจะทำให้ร่างกายร้อนหากรับประทานมาก เสี่ยงต่อการเกิดอาการไข้และร้อนในได้
ที่มา hdmall