ขั้นตอนและกระบวนการทำงานของ Big Data มีอยู่ 3 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- จัดเก็บข้อมูล (Storage) – เป็นขั้นตอนการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพรวมถึงข้อมูลที่คาดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นตัวอักษร ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วีดีโอ ไฟล์เสียงที่ถูกบันทึก จะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่นี่
- การประมวลผลข้อมูล (Processing) – การประมวลผลข้อมูล หลังจากที่นำข้อมูลมารวบรวมไว้ได้ในที่เดียวแล้ว ข้อมูลต่างๆ จะถูกนำไปจัดหมวดหมู่ให้อยู่ในกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกันหรือความสัมพันธ์ใกล้เคียงกัน ให้ผลลัพธ์คล้ายคลึงกันมากที่สุด แล้วจึงนำมาเปลี่ยนเป็นรูปแบบข้อมูลเพื่อนำเอาข้อมูลที่มีอยู่เหล่านี้เข้าระบบข้อมูลที่ผ่านการประมวลผลแล้ว
- การวิเคราะห์ข้อมูล (Analyst) – การวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอข้อมูล หลังจากที่ข้อมูลทั้งหมดได้ถูกจัดกลุ่มและแยกประเภทเรียบร้อยแล้วนั้น ต่อจากนั้นจะนำมาวิเคราะห์หา Pattern ความเกี่ยวข้องกันทั้งหมด ที่อาจมองไม่เห็นได้เลยด้วยตา ไม่ว่าจะเป็นการหา แนวโน้มของการตลาด ความต้องการของลูกค้า กระแสที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และข้อมูลด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ และจัดมานำเสนอในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือกราฟ
ประโยชน์ของการใช้ Big Data
Big Data สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือภาคเอกชน ในส่วนนี้จะพูดถึงประโยชน์ของ Big Data หากนำมาปรับใช้ในภาคธุรกิจแล้วจะสามารถทำให้
- สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการนำฐานข้อมูลที่มีอยู่ใน Big Data ศึกษาถึงลักษณะพฤติกรรมของผู้บริโภคว่ามีการตัดสินใจในการเลือกสินค้าอย่างไร สามารถนำเสนอสินค้าที่คุณมีอยู่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้หรือไม่ หากไม่มีจะสามารถนำสินค้าชนิดอื่นที่มีอยู่นำไปทดแทนได้หรือไม่
- สามารถวิเคราะห์ความต้องการของตลาดในอนาคตได้ ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกค้นหาในอินเตอร์เน็ต รวมถึงใน Social Media ต่างๆ สามารถนำมารวบรวมได้ ว่ามีอะไรที่ป็นกระแสหรือได้รับความนิยมอยู่ในขณะนั้น ว่ากระแสอะไรที่นำมาค้นหาหรือกล่าวถึงอยู่มากที่สุด ก็สามารถนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์และวางแผนก่อน หากมีแผนที่ดีและสามารถทำได้อย่างรวดเร็วก็สามารถเป็นผู้นำกระแสได้อย่างไม่ยาก จากการใช้ข้อมูลจาก Big Data
- การวางแผนในอนาคตมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลที่มีอยู่สามารถนำผลวิเคราะห์จาก Big Data เข้ามาช่วยประกอบการวางแผนและการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต โดยการเก็บข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กรเพื่อนำไปวิเคราะห์ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการผลิต ข้อมูลการใช้วัตถุดิบ จะทำให้สามารถทราบได้ว่าปัญหาภายในองค์กรมีหรือไม่ต้องปรับปรุงแก้ไขส่วนใด เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการผลิต
- คาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น จากการนำข้อมูลที่มีจาก Big Data มาคาดการณ์ความต้องการของตลาด ซึ่งนอกจากคาดการณ์ในอนาคตได้แล้วนั้น ก็ยังสามารถนำข้อมูลส่วนนั้นมาวิเคราะห์ต่อยอดได้อีกว่า ในอนาคตนั้นจะมีเหตุการณ์อะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้บ้าง ก็สามารถนำข้อมูลส่วนนั้นนำไปวางแผน ปรับนโยบาย วิธีการบริหารองค์กร เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
- ลดงบประมาณในการลงทุนด้าน IT ในอนาคตหลังจากที่นำ Big Data มาใช้ในองค์กรแล้วสามารถลดต้นทุนการใช้งบประมาณในด้าน IT ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถนำข้อมูลที่ได้มาไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีกพร้อมยังช่วยลดต้นทุนในการจ้างพนักงานในด้าน IT ได้อีกหลายตำแหน่งที่สามารถใช้ Big Data มาทดแทนได้
ที่มา: 1stcraft