การจัดการการผลิตและการดำเนินงาน ความหมายของการจัดการและการดำเนินงาน
การผลิต หมายถึง การสร้างสินค้าและบริการ
การปฏิบัติการ หมายถึง กระบวนการภายในองค์การซึ่งใช้ปัจจัยนำเข้า (คน เงินทุน วัตถุดิบ วัสดุอุปกรณ์) และแปรรูปปัจจัยนำเข้าให้ออกมาเป็นปัจจัยนำออก (สินค้าและบริการ)
การบริหารการผลิต หมายถึง การวางแผนและการตัดสินใจเพื่อการผลิตสินค้า
การบริหารการปฏิบัติการ หมายถึง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าและบริการ โดยผ่านกระบวนการแปรสภาพจากปัจจัยนำเข้า เพื่อให้ออกมาเป็นปัจจัยนำออก หรือเป็นการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติการรวมถึงการตัดสินใจว่าจะผลิตอะไร ผลิตอย่างไร ใช้บุคคลอย่างไร
การจัดการการผลิตและการดำเนินงาน
การจัดการการผลิตและการดำเนินงาน (Production and Operations Management (POM)) เป็นการศึกษา วิเคราะห์ กำหนดแนวทางปฏิบัติ และควบคุมกระบวนการแปรรูปปัจจัยนำเข้าหรือทรัพยากรการดำเนินงานให้เป็นผลลัพธ์ในรูปของสินค้าและ/หรือบริการอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์การ
องค์การกับการจัดการด้านการดำเนินงาน บทบาทและความสัมพันธ์ของการจัดการด้านการดำเนินงานกับหน่วยงานและองค์การมีดังนี้
- การจัดการด้านการดำเนินงาน เป็นหน้าที่ทางธุรกิจ การผลิตและการบริการเป็นหน่วยงานหนึ่งภายในองค์การเช่นเดียวกับหน้าที่อื่น โดยการดำเนินงานด้านการปฏิบัติการจะรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนแปลงปัจจัยการผลิตหรือการดำเนินงานให้เป็นสินค้าหรือบริการสำหรับลูกค้า หน้าที่นี้เป็นหน้าที่พื้นฐานที่ทุกคนเข้าใจ
- การจัดการด้านการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับหน้าที่อื่น หลักการของการจัดการด้านการดำเนินงานจะแทรกอยู่ในทุกหน่วยงานที่มีการปฏิบัติ เช่น การเลือกที่ตั้งร้นค้า หรือการออกแบบและการจัดร้านค้า เป็นต้น แต่ปัญหาที่เกิดในการทำงานปัจจุบันคือ แต่ละหน่วยงานต่างถูกขีดขั้นหรือจำกัดการประสานงานด้วยเขตแดนสมมติที่ทำให้การติดต่อสื่อสาร การสร้างความเข้าใจ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานลดลง การพัฒนาความสัมพันธ์และการประสานงานภายในองค์การช่วยให้องค์การมีประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
- การจัดการด้านการดำเนินงานเป็นอาวุธในการแข่งขัน การดำเนินงานที่มีระบบที่ดี ใช้ต้นทุนต่ำและคุณภาพสูงช่วยให้องค์การมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ขณะทีการดำเนินงานที่ใช้ต้นทุนสูง มีข้อบกพร่องมาก หรือปฏิบัติงานไม่เป็นระบบ ย่อมส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันขององค์การ ดังนั้นผู้บริหารจะต้องพยายามหาแนวทางพัฒนาศักยภาพของธุรกิจผ่านระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
แนวโน้มของการจัดการด้านการดำเนินงาน
ในปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจอุตสาหกรรมและทวีเพิ่มขึ้น ขอบเขตของการแข่งขันขยายตัวจากระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปสู่ระดับนานาชาติ การติดต่อสื่อสารที่โยงใยโลกให้ใกล้กันทำให้ผู้บริโภคได้รับข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่หลากหลาย ทำให้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น การผลิตจึงต้องพยายามปรับปรุงเพิ่มผลิตภาพและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ดึงดูดใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ทำให้กระแสโลกาภิวัตน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการหาแหล่งวัตถุดิบ แหล่งเงินและตลาดของผลิตภัณฑ์ การผลิตไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วัตถุดิบในประเทศที่แพงกว่าถ้ามีแหล่งอื่นที่ถูกกว่า ธุรกิจสามารถย้ายฐานการผลิตไปอยู่ในประเทศที่ค่าแรงคนงานต่ำกว่า เพื่อลดต้นทุนการผลิต หรือเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของการกีดกันทางการค้า กลยุทธ์การรวมตัวกันทางธุรกิจ ในปัจจุบันการดำเนินธุรกิจมีลักษณะเป็นเครือข่าย (Network) ที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่ผู้ขาย ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก จนถึงลูกค้าที่เป็นผู้ใช้
การรวมตัวภายในอุตสาหกรรมเดียวกันในรูปแบบพันธมิตรทางกลยุทธ์ (Strategic Alliance) ก่อให้เกิดอำนาจต่อรองกับคู่ค้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้นการได้มาซึ่งปัจจัยการผลิตที่มาจากแหล่งวัตถุดิบต่างๆ มีแนวโน้มจะต้องทำเป็นสัญญาระยะยาวหรือสัญญาที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร อันเป็นความร่วมมือระหว่างกันและกันระหว่างคู่ค้าที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และการตอบสนองลูกค้าเฉพาะราย (Customization) แพร่หลายมากขึ้น
ความนิยมในผลิตภัณฑ์มวลชนเริ่มเสื่อมลง ลูกค้าเริ่มต้องการสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะแบบที่ไม่ซ้ำใคร การผลิตจึงมีแนวโน้มจะมีปริมาณการผลิตต่อ Lot ที่ต่ำลง ทำให้ต้องหาวิธีจะผลิตผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายได้ในต้นทุนที่ต่ำ รวมทั้งต้องพยายามคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ดึงดูดใจลูกค้าอยู่เสมอ ให้ทันกับวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ที่สั้นลง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความก้าวหน้าในเทคโนโลยี ทั้งด้านการผลิตโดยตรง เช่น การใช้แสงเลเซอร์ และด้านอื่นๆ เช่นการใช้ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต (Internet) การติดต่อการ้าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ล้วนแต่มีผลต่อคุณภาพ ผลิตภาพ ปริมาณและต้นทุนของการผลิตเป็นอย่างมาก